เดิมหมู่บ้านจำบอนเป็นหมู่บ้านที่มีราษฎรน้อย ไม่มีโรงเรียนให้นักเรียนได้ศึกษาเล่าเรียน โดยเด็กในหมู่บ้านต้องเดินทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านจำหวาย ซึ่งห่างออกไปประมาณ ๓ กิโลเมตร ต่อมาเมื่อมีราษฎรอพยพมาอาศัยอยู่เพิ่มเติมมากขึ้น นายทา คำน้อย ผู้ใหญ่บ้านจำบอน นายสมชัย ชมเชย ครูใหญ่โรงเรียนบ้านจำหวาย และนายหมื่น ชัยสุวรรณ์ นายผัด ชัยสุวรรณ์ ได้ปรึกษาหารือกัน เกี่ยวกับนักเรียนจากหมู่บ้านจำบอนที่ต้องเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนบ้านจำหวาย ซึ่งมีความยากลำบาก ผ่านทุ่งนา ลำห้วย คลอง และในฤดูน้ำหลาก จะไม่สามารถเดินทางไปเรียนหนังสือได้ เพราะอันตราย จึงได้ประชุมชาวบ้านและทุกคนเห็นชอบที่จะขอจัดตั้งโรงเรียน โดยได้รายงานเสนอขอจัดตั้งโรงเรียนไปทางอำเภอ ในปี พ.ศ.๒๔๙๙ ทางอำเภอได้เห็นชอบให้จัดตั้งโรงเรียนได้ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ทางกระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติให้จัดตั้งโรงเรียนบ้านจำบอนและให้ทางผู้ใหญ่บ้านจัดหาที่ดิน ตลอดจนอุปกรณ์การศึกษาต่างๆ เช่น กระดานดำ โต๊ะ ม้านั่งสำหรับนักเรียนและครู ให้พอเพียง ผู้ใหญ่บ้านได้นำราษฎรบุกเบิกแผ้วถางป่า เพื่อจัดสร้างอาคารเรียนชั่วคราว ได้พื้นที่ ๑ ไร่ ๒ งาน ๗๖ ตารางวา ราคาขณะนั้นประมาณ ๗๗๘ บาท อาคารเรียนชั่วคราวที่สร้างขึ้น หลังคามุงด้วยตองตึง ฝากั้นด้วยไม้ขัดแตะ กว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๒ เมตร ราคาขณะนั้นประมาณ ๗๐๐ บาท และได้เปิดทำการสอนครั้งแรก ในวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๐๑ โดยมีนายพรม ขันชุมภู เป็นครูใหญ่ วันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๐๑ นายพรม ขันชุมภู ครูใหญ่ นายทา คำน้อย ผู้ใหญ่บ้าน ได้ขอแรงราษฎรรื้ออาคารเรียนชั่งคราว และสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ ขนาดกว้าง ๖.๕ เมตร ยาว ๒๐ เมตร หลังคามุงด้วยแป้นเกล็ด วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๐๒ นายฟู อินเสาร์ ได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อื่น ได้มอบที่ดินที่เป็นของตนเอง ที่อยู่ติดกับโรงเรียนให้โรงเรียนบ้านจำบอน ทำให้โรงเรียนมีที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น ๓ ไร่ ๓ งาน ๙๖ ตารางวา วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๐๒ ทางอำเภอได้ย้ายนายพรม ขันชุมภู ออกไปและแต่งตั้งนายสมชัย ชมเชย มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่แทน วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๐๓ นายเถิง ชัยสุวรรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมกับราษฎรปรับปรุงโรงเรียน โดยที่ประชุมหมู่บ้านได้ขอบริจาคชาวบ้าน ได้ตกลงแยกประเภทราษฎรตามฐานะได้ ๔ ประเภท คือ ประเภทที่ ๑ เก็บ ๑๐๐ บาท ประเภทที่ ๒ เก็บ ๗๕ บาท ประเภทที่ ๓ เก็บ ๕๐ บาท ประเภทที่ ๔ เก็บ ๒๕ บาท โดยเก็บเป็นรายปีและจ้างช่างมาปรับปรุงโรงเรียน สิ้นค่าปรับปรุงก่อสร้าง ๒,๕๐๐ บาท วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๐๗ ครูใหญ่เห็นว่าไม่มีที่ร่มให้กับเด็กนักเรียนเล่น จึงได้ปรึกษาผู้ใหญ่บ้านและกรรมการโรงเรียน ร่วมกันสร้างโรงพละศึกษา สิ้นค่าก่อสร้าง ๑,๐๐๐ บาท และได้สร้างส้วมขนาด ๒ ที่นั่งเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งหลัง ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ นายสมชัย ชมเชย ลาออกจากราชการ ทางราชการได้แต่งตั้งนายปรีดา วิชัยศิริ มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่ ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ได้ขยายพื้นที่ของโรงเรียนออกไปข้างละ ๔ เมตร มีราษฎรร่วมบริจาค ๑๑ ราย ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ อาคารชั่วคราวเดิมที่ราษฎรได้ร่วมสร้างกันขึ้น มีสภาพชำรุดทรุดโทรมจนไม่ปลอดภัย จึงได้รื้อทิ้ง โดยได้ไปอาศัยศาลาวัดจำบอนเป็นที่เรียนหนังสือเป็นการชั่วคราว และราษฎรได้ร่วมกันบริจาคเงินจำนวน ๕๕,๐๐๐ บาท ได้เริ่มสร้างฐานราก ตั้งเสาคานและขึ้นโครงหลังคาอาคารเรียนหลังใหม่ ต่อมาทางราชการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้ให้งบประมาณสมทบอีก จำนวน ๗๐,๐๐๐ บาท และได้เปิดประมูลก่อสร้างอาคารเรียนในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยสร้างเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นอาคารขนาด ๓ ห้องเรียน แต่ผู้ปกครองนักเรียนและราษฎรได้ขอให้ผู้รับเหมาสร้างเป็น ๔ ห้องเรียน ซึ่งสร้างตามแบบอาคารเรียน ป. ๑ ข และราษฎรได้ร่วมกันสร้างส้วมขนาด ๓ ที่นั่ง ให้อีก ๑ หลัง ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ทางราชการได้แต่งตั้ง นายสมพักตร์ เพ็งสมบูรณ์ มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่ แทนนายปรีดา วิชัยศิริ ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ทางโรงเรียนและคณะกรรมการหมู่บ้านได้พิจารณาเห็นว่า โรงเรียนควรมีหอประชุม เพราะอาจดัดแปลงเป็นชั้นเรียนได้ในอนาคต จึงได้ขอความร่วมมือจากราษฎรในหมู่บ้าจัดหาไม้และเสาไม้ขนาดใหญ่ ได้ทำการก่อสร้างในวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๑๙ เป็นอาคารขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว ๑๕ เมตร ส่วนหลังคาได้ขอบริจาคกระเบื้องจากราษฎรที่มีฐานะดีในหมู่บ้าน ทั้งหมดใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวน ๑๒,๐๐๐ บาท ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ทางโรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน ๒๒๒,๐๐๐ บาท สร้างและต่อเติมอาคารหอประชุม ให้เป็นอาคารเรียนแบบ ชร. ๐๑ ปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน ๒๓,๐๐๐ บ
ประวัติโรงเรียน